Monday, November 2, 2015

绿葡萄 (18禁中文)

ไม่เจอกันหลายวันเลยคิดถึงเฮียบ้างอ๊ะป่าว อาทิตย์ก่อนกินตับไปแล้ววันนี้กินผลไม้ล้างปากหน่อยละกัน

温声提示: จริงๆไม่ต้องเตือนก็ได้โน๊ะ ทะลึ่งเกือบทุกโพสต์อยู่แล้ว โฮ่ๆๆๆ



Q: คือวันนี้ผมซื้อผลไม้มานั่งกินกับเพื่อนๆระหว่างรอเรียนครับเฮีย กินๆกันอยู่มีคนนึงถามขึ้นมาว่าผมชอบ 紫葡萄 [zǐ pú táo] องุ่นแดง หรือ 绿葡萄 [lǜ pú táo] องุ่นเขียว ผมชอบหวานๆก็เลยตอบองุ่นแดงไป เท่านั้นแหละลั่นกันทั้งโต๊ะเลย องุ่นแดงมันตลกตรงไหนอ่ะเฮีย?

A: เอ่อ..อ่านไอ้ข้างล่างนี่ก่อนละกัน

คืองี้ เอาค.หมายตรงๆก่อน 葡萄 ก็องุ่นน่ะแหละไม่มีอะไรพิเศษ แต่พอเป็นสแลงเนี่ยมันหมายถึงหัวนมผู้หญิงนะฮะ (นึกถึงองุ่นไข่ปลาเม็ดเล็กๆพอนะ พันธุ์อื่นอลังการไปหน่อย) ไฮไลท์มันอยู่ที่พอรวมกับ 紫 ข้างหน้า จากองุ่นแดงธรรมด๊าธรรมดาจะกลายเป็นหัวนมดำในบัดดล แถมคำนี้มีความหมายแฝงเชิงลบอีกต่างหาก เพราะถ้าบอกว่าสาวไหนหัวนมดำแปลว่าผ่านผู้ชายมาเยอะแล้วนั่นเอง สาวๆรู้ไว้ละกันว่าพวกผู้ชายมันเมาท์กันแบบนี้ 

ขอแก้นี้สนึง ที่ตอนแรกบอกไม่ต้องอัพเลเวลตามเฉดสีหัวนม จริงๆแล้วอัพได้ว่ะหมุ่มจีนแม่มใจร้ายกว่าที่คิด แถมแบ่งสามเลเวลอีกตะหาก 
红葡萄 [hóng pú táo] องุ่นแดง อันนี้หัวนมสาวน้อย 
紫葡萄 [zǐ pú táo] องุ่นม่วง (แปลตรงตัว) อันนี้ขั้นกว่า สีคล้ำๆดำๆแระ
黑葡萄 [hēi pú táo] องุ่นดำ อันนี้ขั้นสุดกันไปเลย เอ็กซ์ตรีมมาก

ป.ล. อธิบายเรื่องสีอีกหน่อย 紫葡萄 นี่สีออกม่วงเข้มๆอมดำ ทีนี้ถ้าแปลตรงตัวว่าองุ่นม่วง บ้านเรามักเหมารวมกับองุ่นแดง ในที่นี้เลยขอแปลเป็น"องุ่นแดง"ไปนะ (ถ้านู๋ๆจะแปลเป็น"องุ่นดำ"ไปเลยก็ไม่ผิดอะไร) อ่านจบก้มลงสำรวจด่วนอยู่เลเวลไหนกันมั่งแล้วเนี่ยตัวเธอว์ (^ 0^)/♥

好好学习,天天向上!! 

#花哥 #18禁中文棒 #ChineseBang #中文棒 #Mandarin #ภาษาจีน

Tuesday, October 27, 2015

บอกระดับคำคุณศัพท์ด้วย 得不得了! และ 得很!

เวลาเราเรียนภาษาอะไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาจีนเนอะ จะมีประโยคที่มีพื้นฐานการเรียงประโยคหรือแปลคล้ายๆ กับภาษาไทย พูดง่ายๆ คือเราเดาออกนั่นเองค่า แต่ก็จะมีอีกส่วนนึงที่เรารู้ทุกตัวแล้วน้า แต่มารวมกันแล้วแปลไม่ออกซะงั้น อย่างสองตัวข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างค่ะ^^

得不得了! [de bùdéliǎo] และ 得很! [de hěn]

เอ๋!...สองตัวนี้แปลว่าอะไรกันแน่นะ หือมมม์!! คล้ายๆ ว่าเราจะรู้จักทุกตัวเรยแต่กลับงงซะนี่!?
วันนี้สุ่ยหลินมีคำตอบค่า ติดตามนะคะ^^




得不得了[de bùdéliǎo] คำนี้จะใช้กับสถานการณ์แบบว่าดีใจฝุดๆ อยากกระโดดโลดเต้น เก็บอาการไม่อยู่ หรือเสียใจสุดๆ จะสุดไปทางใดทางหนึ่งก็ได้ โดยมีรูปประโยคการใช้แบบนี้ค่าา

คำคุณศัพท์ + 得不得了

เดวมาชำแหละทีละส่วนก่อนน้า 
คำว่า不得了 คือ สุดๆ, ฝุดๆ, สุดยอด, โครตๆ หรือ สุดขีด 
โดยมีไวยากรณ์คือ 得 + 不得了ค่ะ 得เป็นคำเสริมบอกระดับของคำคุณศัพท์ที่อยู่หน้า得ว่าเป็นถึงระดับ 不得了เลยนะ ใช้ได้ทั้งทางดีและไม่ดีขึ้นอยู่กับคำคุณศัพท์ข้างหน้า โดย 得จะแค่ขยายให้สุดไปทางใดทางนึงเท่านั้น ถ้างงมาดูตัวอย่างกันเรย

1. 因为他老板给他加薪水,所以他高兴得不得了!
[yīnwèi tā lǎobǎn gěi tā jiā xīnshuǐ, suǒyǐ tā gāoxìng dé bùdéliǎo!]
เพราะว่าเจ้านายเค้าขึ้นเงินเดือนให้ ดังนั้นเค้าดีใจโพดๆ (กรณีนี้คือดีใจมากๆ มากฝุดๆๆ)

2. 她的妈妈刚去世, 她难过得不得了。
[tā de māma gāng qùshì, tā nánguò dé bùdéliǎo]
คุณแม่ของเค้าเพิ่งเสียไป เค้าเสียใจมากๆ เลยทีเดียว


**************************************
มาดูคำที่สองกันค่ะ
得很 [de hěn] แปลได้ว่า "อย่างมาก" (แต่ยังระดับน้อยกว่า得不得了นะ) มีรูปประโยคการใช้แบบนี้

คำคุณศัพท์ + 得很

สำหรับไวยากรณ์ตัวนี้คือ 得เป็นคำเสริมบอกระดับของคำคุณศัพท์ว่าเป็นระดับ 很 มีความหมายใกล้เคียงกะประโยคที่เราคุ้นเคยกันดีคือ 很+ คำคุณศัพท์ เช่น 很好 (ดีมาก) , 很棒 (เยี่ยมมาก), 很美 (สวยมาก) จะแตกต่างกันหน่อยตรงที่ว่า คำคุณศัพท์ + 得很 จะเป็นทางการน้อยกว่าแต่ว่าสื่ออารมณ์ได้มากกว่า ดูตัวอย่างประโยคกันจ้า

猫胖得很。
[māo pàng déhěn]
แมวอ้วนมากเลยอ่ะ

他懒得很,听说他每天 11点钟才起床。
[tā lǎn déhěn, tīngshuō tā měitiān 11 diǎnzhōng cái qǐchuáng.] 
เค้าขี้เกียจมากๆ อ่ะ ได้ยินว่าทุกวัน 11 โมงกว่าจะตื่น

她的男朋友有钱得很。
[tā de nánpéngyǒu yǒuqián dehěn]
แฟนหล่อนมีตังค์อย่างเยอะ (แอบอิจฉาหน่อยๆ)

ถึงตรงนี้ อาจจะงงแล้วมันต่างกันไงนะระหว่าง很+ คำคุณศัพท์ กับ คำคุณศัพท์ + 得很
งั้นลองมาดูตัวอย่างเปรียบเทียบ ซักหน่อยนะคะ^^

他很好。
[tā hěn hǎo]
เขาดีมาก

他好得很。
[tā hǎo déhěn]
เขาดีมาก (จริงจริ๊ง)

สองประโยคนี้เป็นประโยคชมทั้งคู่ค่า ว่าเขาดีมาก แต่ประโยคที่สอง 他好得很。 จะใส่อารมณ์เข้าไปด้วยนะคะ (ประโยคแรกเป็นแค่การพูดบอกเล่าว่า เค้าดีมาก เฉยๆ)

ซึ่งประโยคที่สองนี้จะชมจริงหรือประชดนั้น ต้องดูที่น้ำเสียงคนพูดด้วย หากว่าพูดไปแสดงอาการชื่นชมไป ก็แสดงว่าชมจริง แต่หากว่าพูดไปกัดฟันไป อันนี้ออกแนวประชดล่ะ สุ่ยหลินว่าเหมือนภาษาไทยเลยน้า ว่ามั๊ย?

สุ่ยหลิน 好得很。 อย่ากัดฟันตอนพูดนะจ๊ะ^^ เก๊าขอร้องงงง....

#‎สุ่ยหลิน‬ ‪#‎ChineseBang‬ ‪#‎中文棒‬ ‪#‎汉语‬ ‪#‎中文‬ 

Monday, October 26, 2015

啪啪啪 (18禁中文)

温声提示: โพสต์นี้เริ่มลามกแระ เด็กดีอ่านผ่านๆก็พอนะ

Q: ถามหน่อยดิเฮีย “กินตับ”เนี่ยจะแปลเป็นจีนยังไงดี?

A: คือ..เก็บกดมาจากช่วงกินเจใช่มั้ยวะเนี่ย!

จริงๆใช้ 做爱 [zuò ài] เมคเลิฟ ก็รู้เรื่องแล้วแหละแต่ฟิลลิ่งมันไม่ได้ว่ะ คือแปลแล้วค.หมายได้แต่คำไม่โดนมันเหมือนขรี้ไม่สุดอ่ะ อย่างที่รู้กันนั่นล่ะว่าไอ้“ตับ”เนี่ยมันมาจากเสียงตอนฟีทเจอริ่งกัน ฉะนั้นคำที่ใช้มันก็ควรจะส่อไปในแง่นั้นด้วย ว่าแล้วก็จัดเต็มไปเลยเดี๋ยวนู๋ๆจะขาดธาตุเหล็ก 啪啪啪 [pā pā pā] ตับๆๆ 3 เด้งไปเลยนะฮะ





啪 ตัวนี้ใช้เลียนเสียงของกระทบกัน ส่วนใหญ่เจอในหนังสือการ์ตูนอ่ะนะ (ทีนี้เวลาแปลจะใช้เสียงไหนดูบริบทด้วยนะเว้ย อย่างถ้าเจอในฉากต่อยตีกันมันก็ควรจะเป็น“ผัวะ”“เพี้ยะ” อะไรทำนองนั้น ไม่ใช่แม่ม“ตับๆๆ”อย่างเดียว) จะว่าไปถ้าตรงจริงๆควรจะเป็น“ป้าบๆๆ”มากกว่า ได้อิมเมจของเสียงชัดเจนดี ส่วนตอนนี้ก็หยวนๆใช้ไปก่อนแล้วกัน หรือใครมีคำไหนที่โดนกว่านี้ก็เมนท์ไว้ให้ด้วยนะ

ป.ล.รูปปลากรอบมีสองแบบแน่ะ มีทั้งตับๆๆ แล้วก็ป้าบๆๆ เอาให้ฟิน~นกันไปเรย (^ 0^)/♥

好好学习, 天天向上!!

‪#‎花哥‬ ‪#‎18禁中文棒‬ ‪#‎ChineseBang‬ ‪#‎中文棒‬ ‪#‎Mandarin‬ ‪#‎ภาษาจีน‬

挂科 [guà kē] “แขวนวิชา” - “สอบตก”

มาพบกับ #ManeePloy และ 习惯用语 กันอีกครั้งค่ะ ^^ กับคำว่า 挂科 [guà kē] “แขวนวิชา” - “สอบตก” ลองดูตัวอย่างนะคะ



我很担心明天的考试会挂科。
Wǒ hěn dānxīn míngtiān de kǎoshì huì guà kē.
ฉันกังวลใจจัง กลัวพรุ่งนี้สอบตก

你都不看书,考试肯定挂科。
Nǐ dōu bù kànshū, kǎoshì kěndìng guà kē.
เธอไม่อ่านหนังสือหนังหาเลย สอบตกแหงๆ

คำว่า 挂 [guà] ความหมายเดิมคือ "แขวน" ในสมัยโบราณคนที่ถูกประหารชีวิต ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการแขวนคอ 挂 จึงมีความหมายว่า “ตาย” 死 [sǐ] ไปด้วย
ส่วนคำว่า科 [kē] “วิชา” ในที่นี้หมายถึง 考试 [kǎo shì] "สอบ" ดังนั้น 挂科 [guà kē] จึงมีความหมายว่า “ตายในการสอบ(แหงๆ)” นั่นก็คือ “สอบตก” นั่นเอง smile emoticon

สำหรับภาษาเป็นจริงเป็นจังเราใช้คำว่า 不及格 [bù jígé] เช่น 考试不及格 [Kǎoshì bù jígé] = สอบไม่ผ่านหรือสอบตกค่ะ


#ChineseBang #中文棒 #中文 #ภาษาจีน

Tuesday, October 20, 2015

5 อันดับลักษณนามสุดฮิต!

ภาษาจีนเหมือนภาษาไทยเด๊ะเลยนะ ที่มีคำลักษณนามเหมือนกันเลย แถมที่สำคัญ ลักษณนามของจีนกะไทยต่างก็ 很丰富。[hěn fēngfù.] แปลได้ว่ามีเยอะแยะเหมือนๆๆ กัน ไทยเรามี อัน, โหล, หยด, เครือ, เลา, คู่ ฯลฯ จีนเค้าก็มีเหมือนกันล่ะ สร้างความยุ่งยากใจเล็กน้อยให้กะคนเรียนภาษาจีน

จะว่าไปก็เหมือนภาษาไทยนะคะ ถึงแม้ว่าลักษณนามทั้งหมดจะมีมากมายก็ตาม แต่มีลักษณนามสุดฮิตแบบใช้บ่อยอยู่จริงๆ ไม่มาก วันนี้เรามารู้จักลักษณนามพวกนี้กันนะคะ^^ ซึ่งหลายตัวเรารู้จักกันดีอยู่แล้วล่ะค่ะ




อันดับ 1 个 [gè]
พูดถึงลักษณนามแต่ไม่พูดถึง 个 ก็เหมือนมาเมืองไทยไม่ได้เที่ยววัดพระแก้วยังไงหยั่งงั้น! 个 เป็นลักษณนามที่ใช้บ่อยที่ซู้ดและแปลได้หลายความหมายด้วยล่ะ จะแปลว่าคน, อัน, แห่ง หรืออย่างก็ได้
คราวคับขันจวนแย่ นึกลักษณนามอะไรไม่ออกก็ตอบ 个 ไปพลางๆ ก่อนได้
เรื่องเนี้ยถ้าถามเหล่าซือว่า คิดไม่ออกตอบ 个 แทนได้ไหม๊? เหล่าซือจะทำหน้าอึดอัดพิอักพิอ่วนตอบเลี่ยงๆ ว่าก็..ก็ใช้ได้ ถ้านึกไม่ออกจริงๆ อ่ะนะ แต่ถ้านึกออกอยากให้ใช้ให้ถูกตัวมากกว่า ><’ อันนี้สุ่ยหลินเข้าใจว่าเหมือนกับเราเรียกหยดน้ำว่า 1 อัน (个) ฟังแล้วก็แปลกๆ แฮะแต่ก็เข้าใจประมาณนั้น


อันดับ 2 口 [kǒu]
口 แปลตรงตัวว่า “ปาก” แต่พอเป็นลักษณนามแล้วแปลได้มากกว่านั้นอีกแน่ะ แปลเป็น คน, ตัว, คำหรือบ่อน้ำก็ได้ค่ะ
อยากให้สังเกตว่าคำที่ 口 เป็นลักษณนามเนี่ยจะเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตหรือไม่เกี่ยว ก็มีลักษณะเกี่ยวกับ “ปาก” ทั้งนั้นเลยน้า เช่น คนหรือสัตว์ก็ต้องมีปากไว้กิน คำ(ข้าว)เพราะต้องเข้าปาก บ่อน้ำก็มีปากบ่อค่าาา (จำง่ายขึ้นม่ะ วิธีนี้)


อันดับ 3 块 [kuài]
块 เป็นลักษณนามครอบจักรวาลอีกอย่างค่า แปลว่าก้อน, ชิ้น, เม็ด หรือ (เงิน)หยวน ก็ย่อมได้ เช่น
四十块 [sì shí kuài] = 40 หยวน
一块香皂 [yí kuài xiāng zào] = สบู่ก้อนนึง
ใช้กันบ่อยมากๆ นะจ๊ะ


อันดับ 4 片 [piàn]
片 เป็นลักษณนามของแผ่น, ชิ้น,หรือผืนก็ได้ค่ะ สังเกตว่าเป็นอะไรที่แบนๆ หน่อยจะใช้ 片 เช่น ก๋วยเตี๋ยว, ยา, บัตร
ลักษณนามของ 块 กะ 片 ในคำนามบางคำสามารถใช้ได้ทั้งคู่แต่ความหมายแตกต่าง
เช่น 一块面包。[yī kuài miànbāo.] กับ 一片面包。[yī piàn miànbāo.]
ตัวแรกจะแปลว่าขนมปัง 1 ก้อน ตัวที่สองจะหมายถึงขนมปัง 1 แผ่นค่าาา


อันดับ 5 只 [zhī]
只 เป็นลักษณนามแบบที่แปลได้ไม่เยอะ แต่ครอบคลุมความหมายเยอะ แปลได้ว่า ข้างหรือ ตัว ก็ได้ค่ะ ใช้กับสัตว์บกและสัตว์ปีก รวมไปถึงอวัยวะของร่างกายเราก็ใช้ได้ เช่น
一只小鸡。[yī zhī xiǎo jī] = ลูกไก่หนึ่งตัว
一只耳朵。[yī zhī ěrduǒ.] = หูข้างนึง
มีเรื่องต้องจำตรงนี้หน่อยว่า 只 เมื่อเป็นลักษณนามจะออกเสียงว่า [zhī] แต่ถ้าไม่ใช่ลักษณนามจะออกเสียงว่า [zhǐ] แปลว่า “เท่านั้นนน” จ้า

สุ่ยหลิน^^

#สุ่ยหลิน #ChineseBang #中文棒 #汉语 #中文 #ลักษณนาม

Friday, October 16, 2015

炮友 (18禁中文)





Q: เฮียๆ 炮友 [pào yǒu] เพื่อนปืนใหญ่นี่มันอะไรอ่ะ? ใช่เด็กปืน (แฟนทีมอาร์เซนอล) รึเปล่า? พอดีเพื่อนที่รู้จักกันในผับตอนไปเชียร์อาร์เซนอลมันทักไลน์มาถามว่ามันขอเป็น 炮友 กับผมได้มั้ย ผมก็งงๆ ที่เมืองจีนจะเชียร์ทีมไหนต้องขอเพื่อนด้วยเหรอเฮีย?


A: เอ่อ..จะเชียร์ทีมไหนนี่ไม่ต้องขอนะ แต่เจอกันคราวหน้านี่ระวังตูดเลย 炮友 นั่นมัน”คู่ขา”นะฮ้า

คืองี้ ขออธิบายที่มาก่อน 炮 ตัวนี้เนี่ยมันมาจาก 打炮 [dǎ pào] มีเซ็กส์ ไม่ใช่ 大炮 [dà pào] ปืนใหญ่ว้อย! แล้วเอามาฟิวชั่นกับ 朋友ออกมาเป็น (和你) 打炮的朋友 ตัดตัวหน้าของแต่ละคำออกก็จะเหลือแค่ 炮友 (ศัพท์ภาษาจีนส่วนมากก็มาจากการรวมคำลักษณะนี้แหละ) ค.หมายก็แนวๆคู่นอน, คู่ขา รึกิ๊กประมาณนั้นอ่ะนะ
ซึ่ง 炮友เนี่ยจะออกแนวไม่รัก ไม่ผูกผัน นัดเจอกันเอามันส์อย่างเดียวเลยนะฮะ แน่นอนว่าไม่เกี่ยงอายุแถมใช้กับเพศไหนก็ได้อีกต่างหากครอบจักรวาลกันไปเลย อ้อ..ใช้แซวเพื่อนเล่นก็ได้นะ

ส่งท้ายสำหรับแฟนอาร์เซนอล ฉายาของทีมคือ 枪手 [qiāng shǒu] มือปืน ส่วนเด็กปืนก็ gooners (เท่าที่รู้เรียกทับศัพท์ยังงี้ไปเลย) ไม่เกี่ยวอะไรกับ 炮友 นะ ว่าแต่..ที่เค้าขอมาน่ะตอบตกลงไปรึยังวะ?

好好学习,天天向上!! (^ o^)/♥

‪#‎18禁中文棒‬ ‪#‎ChineseBang‬ ‪#‎中文棒‬ ‪#‎Mandarin‬ ‪#‎ภาษาจีน‬

Wednesday, October 14, 2015

草根 [cǎo gēn] รากหญ้า — “สามัญชน” “คนธรรมดา”

วันนี้พบกับ #ManeePloy และ 习惯用语 กันค่ะ ^^ คำว่า 草根 [cǎo gēn] รากหญ้า — “สามัญชน” “คนธรรมดา” ดูตัวอย่างประโยคกันเลยค่ะ^^






这是个草根选秀节目。
Zhè shìgè cǎogēn xuǎnxiù jiémù.
นี่เป็นรายการประกวดของคนธรรมดา (ไม่ดังก็ประกวดได้)

他是个草根,进来工作没有靠关系。
Tā shìgè cǎogēn, jìnlái gōngzuò méiyǒu kào guānxì.
เขาเป็นคนธรรมดาๆ เข้าทำงานมาโดยไม่ได้ใช้เส้นสาย

คำว่า 草根 [cǎo gēn] “รากหญ้า” เป็นคำที่แปลเป็นไทยแล้วเข้าใจได้เลย เพราะหญ้าก็คือหญ้า ไม่มีคุณค่าเหมือนดอกไม้ แถมหาได้ง่ายดาษดื่นทั่วไป คนจีนจึงใช้ “หญ้า” มาแทนสิ่งไร้ค่า และขยายความไปถึง "ของธรรมดา" และ "คนธรรมดา" เช่น คำว่า 草民 [cǎo mín] แต่ก่อนเป็นคำด่าแบบเหน็บแนมหมายถึง คนต่ำต้อย (ประมาณภาษาไทยว่าบ่าวไพร่) ปัจจุบันกลายเป็นความหมายกลางๆ หมายถึง สามัญชน คนธรรมดาทั่วไปค่ะ^^

Tuesday, October 13, 2015

คนจีนเค้าเชื่อเรื่องตัวเลขกันจริงจังเหมือนกันน้า! ตอนที่ 2

ตอนที่แล้วเราคุยกันเรื่องนำโชคของจีนกันไปแล้ว (link https://goo.gl/FpgjZg ) ตอนนี้ถึงคราวที่เราจะมาดูเลขที่คนจีนเชื่อว่าจะนำโชคร้ายมาให้กันค่าาาา

ต้องบอกก่อนเลยว่าอันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล บางคนเชื่อมาก บางคนเชื่อน้อย บางคนไม่เชื่อเลย สำหรับเราผู้เรียนภาษาจีน^^ เราก็ควรรู้เรื่องพวกนี้ไว้ ไม่ใช่ว่าให้งมงายนะคะ แต่เพื่อให้เข้าใจว่าทำไม๊ทำไมคนจีนเค้าถึงคิดแบบนั้นทำแบบนี้ (เช่น ไม่เปิดร้านวันนั้น ไม่แต่งงานช่วงเวลานี้ ) เรียกว่าเข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม หรือที่สำนวนจีนเค้าว่า 入乡随俗 [rùxiāngsuísú] ส่วนจะเชื่อหรือป่าวก็อยู่ที่เรานะจ๊ะ

เลขโชคร้าย不吉数字[bù jí shù zì]
不吉祥 = โชคร้าย




ตัวแรกคือ เลข 4 (四) [sì] อันนี้เข้าใจได้ไม่ยากเลยนะ เพราะเสียงของเลข 4 ออกเสียงคล้ายกับคำว่า “死[sǐ]” = ตาย เพราะเหตุผลนี้ล่ะคนจีนจึงมักหลีกเลี่ยงจัดงานมงคลต่างๆ ในเดือน 4 (เมษายน) เช่น งานแต่งงาน รวมไปถึงหมายเลขโทรศัพท์ก็ไม่อยากให้มีเลข 4 เพราะเวลาจะบอกหมายเลขโทรศัพท์กับใคร ว่าเบอร์อะไรก็ต้องมีคำว่า “ตาย” ด้วยซึ่งถือว่าไม่เป็นมงคลเอาซะเรย จริงจริ๊ง!

########

ตัวที่สองคือ เลข 5 (五)[wǔ] เพราะเสียงของเลข 5 ดันไปเสียงคล้ายกับคำว่า “无 [wú] ”แปลว่า “ไม่มีอะไรเหลือ” นอกจากเสียงจะใกล้เคียงแล้วตัวอักษรก็ยังคล้ายๆ กันอีกด้วยแหน่ะ สังเกตดูสิคะ เชื่อกันว่าใครมีเลขนี้อยู่ เงินทองจะรั่วไหล จนแล้วจนเล่า จนซ้ำซากกันเลยทีเดียว

########

ตัวที่สามคือ เลข 7(七)[qī] สำหรับฝรั่งถือว่าเลข 7 เป็นเลขดีนะ แต่สำหรับคนจีนเป็นได้ทั้งเลขที่ดีและเลขที่ไม่ดี (เอายังไง! งงนะเนี่ย) คนจีนเชื่อว่าเดือน 7 (เดือนกรกฏาคม) เป็นเดือนที่ผีถูกปล่อยจากนรกมายังโลกมนุษย์ แต่วันวาเลนไทน์ของคนจีนก็ตรงกับวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฎิทินจันทรคติของจีนด้วย เรียกว่าเทศกาลชีซี 七夕[qī xī] ซึ่งเป็นตำนานความรักระหว่างหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า ดังนั้น เลข 7 ถ้าถือแบบโบราณก็ไม่ดี แต่ถ้าหัวสมัยใหม่หน่อยก็ดีไป ประมาณนี้ค่ะ

########

ตัวที่สี่คือ เลข 13 (十三) [shí sān] อันนี้บอกก่อนว่าไม่เกี่ยวกับความเชื่อของฝรั่งค่ะ บังเอิญเฉยๆ ที่กลายเป็นเลขไม่ดีเพราะเลข 13 เมื่อนำมาบวกกัน 1+3 = 4 ซึ่งเป็นเลขไม่ดีอย่างที่บอกข้างบนนั่นเองค่ะ^^

########

ตัวสุดท้ายคือ เลข 14 (十四) [shí sì] เพราะเลข 1 (一)ในภาษาจีนออกเสียงได้สองอย่างคือ (yī) หรือ (yāo) ก็ได้ เวลาออกเสียงเลข 14 一四[yāo sì] (เยา ซื่อ) จึงคล้ายกับคำว่า 要死[yào sǐ] (เย่า สื่อ) ที่หมายถึง "ไปตายซะ" นั่นเองงงงง

สุ่ยหลินว่าจริงๆ แล้ว พอเรารู้เหตุผลที่มาที่ไปแล้ว ก็ไม่แปลกใจนะคะ ว่าทำไมคนจีนชอบหรือไม่ชอบเลขเหล่านี้ จริงๆ คอนเซปต์ก็เหมือนคนไทยเรานะ คือคำพ้องเสียงทั้งหลาย ถ้าพ้องกับสิ่งที่ดี ความหมายดีก็ถือว่าโชคดี ถ้าเกิดโป๊ะเช๊ะพ้องกับอะไรที่ไม่ดีก็ถือเป็นโชคร้ายไป
เข้าใจได้ไม่ยากเลยน้า

สุ่ยหลิน^^

‪#‎สุ่ยหลิน‬ ‪#‎ChineseBang‬ ‪#‎中文棒‬ ‪#‎汉语‬ ‪#‎中文‬ ‪#‎ภาษาจีน‬ ‪#‎เลขโชคร้าย‬

Friday, October 9, 2015

肉棒 (18禁中文)

ประเดิมโพสต์แรกกับร่างอวตารของเฮียในเพจ 中文棒 “ดุ้นภาษาจีน”กันเลยนะฮะ

温声提示: โพสต์นี้เด็กดีอ่านได้ ยังซอฟท์ๆอยู่





Q: วันนี้พวกหนูพาเหล่าซือไปเที่ยวมาค่ะ ระหว่างจอดพักริมทางก็แวะซื้อของกัน ทีนี้เหล่าซือเห็นหม่ำห้อยอยู่ก็ถามหนูว่ามันคืออะไร หนูก็ไม่รู้จะอธิบาย”หม่ำเนื้อ”นั่นว่ายังไง พอดีนึกถึงโพสต์ 冰棒 (ไอติมแท่ง) ขึ้นมาได้ เลยบอกไปว่า 肉棒 [ròu bàng - เนื้อแท่ง] คิดว่าเหล่าซือน่าจะเข้าใจ ปรากฏว่าเหล่าซือหน้าแดงเลยค่ะ หนูพูดอะไรผิดรึเปล่าคะ?


A: เอ่อ.. 肉棒 นั่นมันกระเจี๊ยวค่ะ

คืองี้ 肉 เนี่ยมันใช้เรียกเนื้อแบบรวมๆ จะเจาะจงว่าเป็นเนื้ออะไรก็ต้องบอกให้มันชัดๆ เช่น 猪肉, 牛肉 (เนื้อหมู, เนื้อวัว) รึเนื้ออะไรก็ว่ากันไป ไม่เหมือนภาษาไทยที่พอพูดถึงเนื้อจะรู้กันเลยว่าหมายถึงเนื้อวัว เช่น ลูกชิ้นเนื้อ, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ฯลฯ

ส่วน 棒 เนี่ยใช้ขยายอะไรก็ได้ที่มีลักษณะเป็นแท่ง, เป็นท่อน เช่น 铁棒, 木棒 (แท่งเหล็ก, ท่อนไม้) รึจะใช้กับของกินก็ได้ เช่น 蟹肉棒 [xiè ròu bàng - ปูอัด], 猪肉棒 [zhū ròu bàng - เนื้อหมูอัดแท่ง]

สรุป ทักษะผสมคำใช้ได้แหละแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ใช้ 肉棒 ก็ไม่ได้ผิดอะไร บังเอิญที่มันเป็นสแลงของกระเจี๊ยวเท่านั้นเอง (สำนวนหนังสือโป๊ก็”ท่อนเนื้อ, ดุ้นเนื้อ”นะฮะ) ถ้าคนฟังไม่คิดเยอะก็พอเข้าใจได้อยู่ ส่วน”หม่ำเนื้อ”นั่นคงต้องอธิบายอ้อมๆเอาหน่อย ใช้ 泰式东北牛肉肠 ละกัน

好好学习,天天向上!! (^ 0^)/♥

‪#‎18禁中文棒‬







Wednesday, October 7, 2015

跑龙套 [pǎo lóng tào] วิ่งชุดมังกร

มาพบกับ 口头用语 คำพูดติดปาก กับ #ManeePloy กันค่ะ ^^
วันแรกนี้ขอเสนอคำว่า 跑龙套 [pǎo lóng tào] วิ่งชุดมังกร หมายถึง “ทำงานไม่สำคัญ” “เป็นตัวประกอบ” ดูตัวอย่างประโยคกันเลยค่ะ^^

在这戏里面他是个跑龙套的。
Zài zhè xì lǐmiàn tā shìgè pǎolóngtào de.
ในละครนี้ เขาเป็นแค่ตัวประกอบตัวหนึ่ง

他在这里只干些跑龙套的活儿。
Tā zài zhèlǐ zhǐ gàn xiē pǎo lóng tào de huó er.
เขาอยู่ที่นี่ทำแต่งานจิปาถะ ทั่วๆ ไป




เรื่องนี้มีที่มาค่ะ เพราะว่าคำนี้ความหมายเดิมหมายถึง นักแสดงที่รับบทเป็นทหารถือธง วิ่งไปวิ่งมาอยู่ในละคร ซึ่งบทนี้ว่ากันตามตรงจะหาใครมาแทนได้ง่ายๆ คำนี้ได้เลยความหมายว่านักแสดงรับจ้างชั่วคราวที่รับบทเป็นแค่ตัวประกอบเล็กๆ ภาษาไทยเรียก "บทเอ๊กซ์ตร้า" ค่ะ ส่วนชื่อเรียกอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเราเรียก 临时演员 [lín shí yǎn yuán] = บทตัวประกอบชั่วคราว 

นอกจากจะแปลว่านักแสดงประกอบแล้ว 跑龙套 ยังมีหมายถึงทำงานจิปาถะ สัพเพเหระทั่วไป เป็นงานเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สำคัญด้วยก็ได้ค่ะ เช่น ช่วยถ่ายเอกสาร ชงกาแฟ ยกของ ฯลฯ หรือจะใช้คำว่า 跑腿 [pǎo tuǐ] = ขา(ช่วย) วิ่ง(แทน) ก็ได้เหมือนกัน^^


ManeePloy ^^

Monday, October 5, 2015

คนจีนเค้าเชื่อเรื่องตัวเลขกันจริงจังเหมือนกันน้า! ตอนที่ 1

สุ่ยหลินเชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินมามั่งว่าคนจีนเค้าชอบเลขอะไรกัน อย่างเช่นที่ได้ยินบ่อยๆ คือ 8 เพราะพ้องเสียงกับคำว่า “รวย” และไม่ชอบเลข 4 เพราะพ้องเสียงกับคำว่า “ตาย”

ดังนั้น พวกเบอร์เบิ้ล เบอร์ตอง 888 หรือ 8888 อะไรพวกนี้ที่เป็นเบอร์โทร เบอร์ทะเบียนรถ เป็นอะไรที่แพงมากๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับประมูลทะเบียนรถเลขสวยเมืองไทยหรือเบอร์โทรศัพท์เลขสวยที่ขายกันแพงๆในเนตอย่างนั้นเลยค่ะ แต่ก็อ่ะนะเรื่องเลขสวยเลขเฮงนี้ มีคนจีนบางคนเชื้อเชื่อสุดใจ… บางคนไม่เชื่อถือเท่าไหร่และบางคนก็เชื่อกลางๆ แบบที่ว่าเลี่ยงได้เป็นเลี่ยง (สุ่ยหลินอยู่ในจำพวกหลัง อิ อิ)

แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตามสุ่ยหลินว่านะ ในเมื่อเราเรียนภาษาจีนแล้วก็มารู้จักความเชื่อเรื่องตัวเลขของคนจีนดีกว่า เพราะมันพัวพัน เอ้ย เกี่ยวพันกับวัฒนธรรมของคนจีน เหมือนอย่างที่เหล่าซือเค้าว่าเรียนภาษาให้ได้ดี ต้องเรียนวัฒนธรรมด้วย (โยงจนได้ หุ หุ)


เลขนำโชคจีน吉祥数字 [jí xiáng shù zì]
(吉祥 = โชคดี)




เลขนำโชคตัวแรกคือ เลข 0 (零) [ling] สาเหตุเพราะเป็นเลขคู่ โดยปกติคนจีนชอบอะไรเป็นคู่ๆ นอกจากนี้เลข 0 ยังมีความหมายว่าทั้งหมดอีกด้วยค่ะ ใครๆ ก็ชอบอะไรได้ที่ได้ทั้งหมด เหมาหมดจริงไหมคะ?

#########

ตัวที่สองคือ เลข 2 (二) [èr] เพราะคนจีนเชื่อว่า 好事成双 [hǎo shì chéng shuāng] แปลได้ความว่า = โชคดีมักมาเป็นคู่ เห็นได้จากงานแต่งงานนิยมมีสัญลักษณ์囍 (双喜- shuāngxǐ) ซึ่งมาจากคำว่า 喜 [xǐ] สองตัวติดกัน แปลว่าสุขสองเท่าเลยนะ (สุขจากเจ้าบ่าวและเจ้าสาว จะเพิ่มสุขจากพ่อตา แม่ยาย พ่อสามี แม่สามีก็ย่อมได้จ้า)

#########

ตัวที่สามคือ เลข 3 (三) [sān] เพราะคนจีนเชื่อว่าชีวิตคนเรามี 3 ช่วงชีวิตค่ะ ได้แก่ ช่วงเด็ก ช่วงผู้ใหญ่ และช่วงคนแก่ หรือไม่ก็อีกแบบคือ “เกิด แต่งงานและตาย” นอกจากนี้ คำว่า “三 [sān]” ยังมีเสียงคล้ายกะคำว่า “生 [sheng]” ที่แปลว่า “เกิด” ได้อีกด้วยนะ

#########

ตัวที่สี่คือ เลข 6 (六) [liù] ฝรั่งเชื่อว่าเลข 6 หมายถึงความโชคร้าย ยิ่งถ้า 666 (เรียงกัน 3 ตัว) ยิ่งโชคร้ายหนักข้อไปอีก สุ่ยหลินได้ยินว่าเกี่ยวกับซาตานแต่ก็ไม่รู้ที่มาเหมือนกันค่า แต่สำหรับคนจีนแล้วเลข 6 ยิ่งมากยิ่งดี เพราะเสียง “六 [liù]” เสียงคล้ายกับคำว่า “ราบรื่น” 流利 [liúlì] จึงเป็นเลขที่เหมาะกับการทำธุรกิจ และเลือกเป็นวันเปิดห้างร้านต่างๆ เพราะเชื่อว่าโชคลาภจะไหลเวียนดี ทำมาค้าขึ้น รวยๆ เฮงๆ ค่า สังเกตว่านอกจากคนจีนชอบเลข 6 แล้ว บริษัทลักษ์ 666 ของคุณวิลลี่ก็ใช้โลโก้บริษัทที่อ้างอิงเรื่องโชคลาภอันนี้ด้วยล่ะ

#########

ตัวที่ห้าคือ เลข 8 (八) [bā] เลขนี้เป็นสุดยอดอภิมหาความเชื่อเลขมงคลของจีน คนจีนชอบเลข 8 มากที่สุด มีคนเล่าว่าเค้าซื้อขายหมายเลขโทรศัพท์ 888-8888 ที่เมืองจีนกันในราคา 8 ล้านกว่าบาทเท่านั้นเอ๊ง เอิ๊กกก... ที่เป็นแบบนี้เพราะใครๆ ก็ชอบที่จะบอกหมายเลขโทรศัพท์กับคนอื่นว่า โทรศัพท์ชั้นคือหมายเลข รวย รวย รวย วรรค รวย รวย รวย รวย - -' สรุปว่าทุกครั้งที่ต้องพูดถึงหมายถึงโทรศัพท์จะเป็นการอวยพรให้ชั้นรวยไปในตัว ว่างั้น

คนจีนเค้าชอบเลข 8 มาก แม้กระทั่งกีฬาโอลิมปิคที่จีนเป็นเจ้าภาพครั้งก่อนก็จัดวันที่ 8 เดือน 8 (สิงหาคม) ปี 2008 ในเวลา 08.08.08 (สองทุ่มแปดนาที แปดวินาที!!) ชอบกันหนักขนาดนี้เพราะเลข 8 ที่ออกเสียงว่า“ปา” เสียงคล้ายกับ“ฟา” ในคำว่า ”发财 [fācái]” ที่แปลว่า “รวย” นั่นเอง

และยังไม่จบอีกนะ ตำนานเลข 8 เค้าว่าถ้าหมุน เลข 8 ให้เป็นด้านขวางแล้ว เลข 8 ก็จะมีสัญลักษณ์เหมือน ∞ (Infinity) = ไม่สิ้นสุด สามารถแปล (แบบคนจีนได้ว่า) ยิ่งรวยอย่างไม่สิ้นสุดดดดดดนั่นเองงงงง (ลากเสียงด้วยนะจ๊ะ จะได้เข้าถึงอารมณ์ได้ถ่องแท้)

#########

เลขนำโชคเลขสุดท้ายคือ เลข 9 (九) [jiǔ] คนจีนชอบเลข 9 นะเพราะมีเสียงเหมือนกับคำว่า “久 [jiǔ]” ที่หมายถึง “อายุยืน”ค่ะ ตำราเค้าว่าเลขนี้เกี่ยวข้องกับฮ่องเต้ของจีนตั้งแต่สมัยโบราณ บนกำแพงพระราชวังถ้ามีรูปมังกรสลัก (ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฮ่องเต้) ก็ต้องมี 9 ตัว และห้องในพระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่งมีจำนวนห้องทั้งหมดถึง 9,999.5 ห้องด้วยแน่ะ! (ที่มีอีกครึ่งห้องเพราะว่าเป็นความเชื่อจีนแต่โบราณค่ะ ที่ว่าที่อยู่อาศัยของมนุษย์ไม่อาจเทียบเท่าสวรรค์ได้ ในเมื่อสวรรค์มี 10,000ห้อง พระราชวังต้องห้ามเลยต้องมีต่ำว่านิดหน่อยกลายเป็น9,999.5 ห้องไงคะ)

#########

ไว้ตอนหน้ามาต่อกันเรื่องเลขโชคร้ายของจีนกันนะคะ อ่านจบแล้วอย่าไปแย่งประมูลเลข 8 กะเค้าจดหมดน้า เหลือไว้ให้สุ่ยหลินมั่งงง อิ อิ
สุ่ยหลิน^^